ท่ามกลางความปั่นป่วนของโลก เศรษฐกิจที่เปราะบาง ข่าวสึนามิ แผ่นดินไหว สงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ไปจนถึงปัญหาภายในประเทศ
การทำธุรกิจบนโลกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และคาดเดาได้ยาก
แต่ กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ มั่นใจว่ามีปัญหาหนึ่งที่ “แน่นอน” และจะกระทบทุกคนบนโลกใบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ วิกฤตสิ่งแวดล้อม
การดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ทุบสถิติการให้สินเชื่อและการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ภายใต้วงเงินสะสมรวมกว่า 180,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง
(2023 – 6 เดือนแรกของปี 2025) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 150,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปี (2023 – 2025)
ตอกย้ำให้เห็นว่าไทยพาณิชย์เอาจริงในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยในเรื่องความยั่งยืน
ล่าสุด ไทยพาณิชย์พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภูเก็ต จังหวัดนำร่อง เยี่ยมชม 2 โรงแรมใหญ่ “กะตะกรุ๊ป” และ “หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้” ที่พลิกโฉมธุรกิจโรงแรมภูเก็ตสู่ผู้นำโรงแรมยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อจาก SCB อย่างเป็นรูปธรรม
ทำไมต้องเป็นภูเก็ต?
เพราะวันนี้ภูเก็ตคือ ‘หัวใจหลัก’ ของการท่องเที่ยวที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ
ในปี 2024 ภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้กว่า 2.6 ล้านล้านบาท หรือราว 14% ของ GDP โดยภูเก็ตครองแชมป์จังหวัดรายได้สูงสุดกว่า 4.9 แสนล้านบาท
ใน 5 เดือนแรกของปี 2568 แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติในภาพรวมลดลง -3% (YoY) เหลือ 14.4 ล้านคน แต่ภูเก็ตกลับสวนกระแสด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 2.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 8% (YoY)
กลุ่มหลักที่เพิ่มขึ้นคือยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งใช้จ่ายสูงและพำนักนาน ส่งผลดีต่อโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว
รายได้ต้องมี คนดีก็ต้องเป็น
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวกว่า 53% ทั่วโลก ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน ทั้งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม (Booking.com, 2025)
การที่โรงแรมของไทยปรับตัวสู่แนวทางยั่งยืนไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพร้อมใช้จ่ายสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รายได้ของโรงแรมมีความผันผวนน้อยลง
ลดผลกระทบจากนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่หายไป และเปลี่ยนผ่านจากการเน้น “ปริมาณ” ไปสู่ “คุณภาพ” สร้างความโดดเด่นและเอกลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในภูเก็ตมีความตื่นตัวต่อการผลักดันความยั่งยืนในจังหวัดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจังหวัดนำร่องที่อยู่ในโครงการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายยกระดับสู่ศูนย์กลางท่องเที่ยวยั่งยืนภายในปี 2570
อีกทั้งการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการประชุม Global Sustainable Tourism Conference ในปี 2569
SCB ให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพอร์ตสินเชื่อสูงสุดในอุตสาหกรรมธนาคารไทยถึง 1.35 แสนล้านบาท ซึ่งในพื้นที่อันดามันคิดเป็น 25% ของพอร์ตสินเชื่อโรงแรมทั้งหมด และเฉพาะโรงแรมในภูเก็ต ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท
สิ่งที่ SCB สามารถทำได้ดีกว่านี้คือการขยายสินเชื่อสีเขียวให้เข้าถึงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก เพราะปัจจุบันสินเชื่อกลุ่มนี้ยังคงกระจุกตัวอยู่กับลูกค้าขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่หรือกลุ่มทุนรายใหญ่
ทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าใจว่าความยั่งยืนคือการลดต้นทุน และวางรากฐานเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว ซึ่งเชื่อว่าเรายังมีช่องว่างที่สามารถเติมเต็มให้มากกว่านี้ แต่ต้องใช้เวลา
.
ดังนั้นปัจจุบัน SCB จึงให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ผ่านหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แต่ละองค์กรเริ่มต้นได้อย่างถูกต้องในเส้นทางสู่ความยั่งยืน โดยที่ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ด้วยการมากู้แบงก์
แนวทางการปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนสำหรับกลุ่มโรงแรม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. โรงแรมขนาดใหญ่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง มีความเข้าใจเรื่อง “กรีนโฮเทล” อยู่แล้ว และต้องการพัฒนาให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น
2.โรงแรมใหม่หรือรายกลาง-เล็ก ที่อยากเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังลังเลว่าการลงทุนเพื่อความยั่งยืนจะเป็นต้นทุนเพิ่ม หรือจะคุ้มค่าในระยะยาวแค่ไหน รวมถึงอยากรู้ว่าความยั่งยืนเหล่านี้จะสร้างประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนรอบข้างได้อย่างไรบ้าง
โดยมีแผนการดำเนินงาน 2 ส่วน ประกอบด้วย:
1.ธุรกิจโรงแรมที่ดำเนินธุรกิจอยู่เดิมและเริ่มปรับตัว (Less Brown): ไทยพาณิชย์จะนำพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนเข้ามาช่วยสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนการวางกลยุทธด้านความยั่งยืนที่เหมาะสม พร้อมนำเสนอโครงการสินเชื่อเพื่อการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ (Financing the transition) เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การปรับปรุงด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การบริหารจัดการน้ำ หรือการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งกลยุทธเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุน และวางรากฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต
2.โรงแรมยั่งยืน Sustainable Hotel: ไทยพาณิชย์มุ่งสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อมสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ดึงดูดลูกค้า premium และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยธนาคารจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืนของลูกค้า อาทิ Sustainability Linked Loan, Green Loan และ Green Bond เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน โปร่งใส เป็นที่ยอมรับ ซึ่งรวมถึงการได้ใบรับรองมาตรฐานสากล
ทั้ง (1) ด้าน Sustainable Building Certification หรือการสนับสนุนโครงการสร้างใหม่หรือการปรับปรุงโรงแรมให้ได้รับการรับรองอาคารยั่งยืนตามมาตรฐานสากล เช่น LEED (ในระดับ Gold และ Platinum), EDGE, WELL, หรือ TREES
และ (2) ด้าน Sustainable Operating Certification หรือการสนับสนุนเพื่อให้โรงแรมได้รับการรับรองมาตรฐานการดำเนินงานที่ยั่งยืนในระดับสากล เช่น GSTC-recognized certifications (Green Hotel Plus, EarthCheck, GreenGlobe) รวมถึงการรับรองมาตรฐานการดำเนินงานที่ยั่งยืนในระดับสากลอื่นๆ โดยธนาคารผลักดันพอร์ตสินเชื่อธุรกิจโรงแรมและบริการในภูเก็ตให้เป็นโรงแรมยั่งยืน โดยนำร่องในภูเก็ต และเป็นต้นแบบให้กับธุรกิจโรงแรมในประเทศ
เครดิต : marketeeronline